การสร้างเว็บไซต์ใหม่สามารถเป็นทั้งเรื่องที่น่าตื่นเต้นและท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเลย์เอาต์ที่สมบูรณ์แบบ หรือการสร้างเนื้อหาที่คอนเทนท์ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังสำคัญที่จะต้องมั่นใจว่าประสบการณ์การท่องเว็บของผู้ใช้งานนั้นปลอดภัยและเชื่อถือได้ ผ่านเมนูหลักที่ค้นหาง่าย พร้อมกับฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซที่ปลอดภัย
ข่าวดีคือมีโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่หลากหลายและราคาไม่แพงให้เลือก หลายตัวได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะ ไม่ว่าคุณต้องการขายสินค้า เผยแพร่บทความ ส่งเสริมธุรกิจ หรือแสดงผลงานของคุณ ก็มีโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้
9 โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ดีที่สุดในปีนี้
- Shopify: ดีที่สุดสำหรับเว็บอีคอมเมิร์ซ
- WordPress: ดีที่สุดสำหรับเว็บบล็อก
- Wix: ดีที่สุดสำหรับทำพอร์ตโฟลิโอ
- Squarespace: ดีที่สุดสำหรับเว็บธุรกิจ
- GoDaddy: ดีที่สุดสำหรับเว็บที่เรียบง่าย
- Duda: ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์เอเจนซี่
- Webflow: ดีที่สุดสำหรับผู้พัฒนาเว็บไซต์
- Weebly: ดีที่สุดสำหรับเว็บฟรีและรวดเร็ว
- Big Cartel: ดีที่สุดสำหรับศิลปิน
1. Shopify
ดีที่สุดสำหรับ
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
Shopify เป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างร้านค้าออนไลน์ และการจัดการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
ทำไม?
เพราะ Shopify สามารถสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสวยๆ และใช้งานได้จริง ด้วยเทมเพลตสำเร็จรูปหรือโค้ดแบบคัสต้อม เว็บไซต์แต่ละแห่งมาพร้อมกับการโฮสต์ โดเมนย่อยฟรี การเข้ารหัส SSL และเครื่องมือในการขายต่างๆ พร้อมกับความสะดวกในการสร้างรายการสินค้าและขายผ่านช่องทางการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ที่ช่วยให้ลูกค้าซื้อได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว เชื่อมต่อเว็บไซต์ของคุณกับช่องทางการขาย อยา่ง Instagram, TikTok และ Google หรือพูดคุยกับลูกค้าโดยตรงผ่านโปรแกรมอีเมลในตัว
แพคเกจและราคา
แผนเริ่มต้นที่ 980 บาทต่อเดือนสำหรับ Shopify Basic ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป ซึ่งคุณสามารถทดลองใช้ฟรีได่
ฟีเจอร์
- สร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซด้วยการธีมเว็บขายของออนไลน์ ฟรี
- รับการชำระเงินด้วยช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
- จัดการคำสั่งซื้อด้วยค่าขนส่งที่ราคาดีที่สุด
- ใช้ Shopify POS เพื่อการขายแบบพบหน้า
- ขยายฟีเจอร์เว็บไซต์ด้วยแอปฯ มากกว่า 8,000 รายการ
ข้อดีและข้อเสีย
- เริ่มต้นเว็บไซต์ได้ง่าย โดยใช้โดเมนย่อย myshopify.com ฟรี จากนั้นอัปเกรดเป็นโดเมนแบบคัสต้อมเมื่อพร้อม
- เพลิดเพลินกับการสร้างรายการสินค้าและแบนด์วิดธ์เว็บไซต์ที่ไม่จำกัด
- รับข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ด้วยโปรแกรมรายงานและวิเคราะห์ที่ใช้ง่าย
- Shopify รวมฟีเจอร์ด้านอีคอมเมิร์ซไว้มากกว่าโปรแกรมสร้างเว็บสำเร็จรูปอื่นๆ
2. WordPress
ดีที่สุดสำหรับ
เว็บไซต์บล็อก
WordPress เป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ในการเผยแพร่บล็อก จดหมายข่าว และเว็บไซต์ที่เน้นข้อความเป็นหลัก
ทำไม?
ความสามารถของ WordPress ในฐานะโปรแกรมสร้างเว็บไซต์อยู่ในระดับสูง เหมาะกับผู้ใช้ที่มีความชำนาญด้านเทคโนโลยี สามารถดาวน์โหลด WordPress เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส เพื่อสร้างเว็บไซต์ และเพิ่มเติมฟีเจอร์เฉพาะอื่นๆ ผ่านโปรแกรมปลั๊กอิน
แพคเกจและราคา
WordPress เปิดให้ใช้ฟรีได้ พร้อมให้พื้นที่จัดเก็บ 1 GB และยังมีเทมเพลตเว็บไซต์หลายสิบแบบ (เลย์เอาต์แบบ Drag and Drop) โดยโปรแกรมเปิดให้อัปเกรดเป็นแพคเกจที่ต้องชำระเงิน เพื่อใช้ฟีเจอร์เพิ่มเติมและปลั๊กอินได้
ฟีเจอร์
- สร้างโดเมนย่อย wordpress.com ฟรี
- ใช้ WordPress เป็นซอฟต์แวร์สร้างเว็บไซต์ที่โฮสต์ด้วยตนเอง
- เพิ่มปุ่มซื้อในเว็บไซต์ WordPress เพื่อขายสินค้าได้
- เลือกใช้ปลั๊กอินกว่า 50,000 รายการ รวมถึงเครื่องมือด้านการขนส่ง การตลาด และ SEO
ข้อดีและข้อเสีย
- WordPress เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมและเชื่อถือได้ของบล็อกเกอร์และเจ้าของธุรกิจ
- เริ่มต้นเว็บไซต์ระดับเบสิกได้อย่างรวดเร็ว และค่อยๆ เพิ่มฟีเจอร์ได้เมื่อต้องการ
- การใช้ปลั๊กอินสามารถเพิ่มความซับซ้อนของฟังก์ชั่นเว็บ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้วย
3. Wix
ดีที่สุดสำหรับ
พอร์ตโฟลิโอ
Wix เป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำหรับเว็บส่วนบุคคลและธุรกิจ รวมถึงพอร์ตโฟลิโอมืออาชีพ เพื่อใช้แสดงผลงาน
ทำไม?
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปนี้เปิดให้สร้างพอร์ตโฟลิโอที่ประกอบด้วยภาพ วิดีโอ ข้อความ และข้อมูล โดย Wix เป็นระบบ Drag and Drop ที่ใช้งานง่าย แพลตฟอร์มนี้มีเทมเพลตพอร์ตโฟลิโอและ CV ที่สร้างไว้ล่วงหน้ามากกว่า 75 แบบ ทำให้คุณค้นหาเลย์เอ้าท์สำหรับได้ง่าย จากนั้นก็ปรับแต่งด้วยแบรนด์และคอนเท้นท์ของคุณเองได้
แพคเกจและราคา
แผนฟรีของ Wix รวมถึงโปรแกรมสร้างเว็บไซต์และโดเมนย่อย wixsite.com อัปเกรดเป็นแผนที่ต้องชำระเงินได้ โดยหลังจากจ่ายเงินแล้ว โดเมนของคุณก็จะไม่มีคำว่า Wix อีกต่อไป พร้อมกับเปิดให้เข้าถึงฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซอื่นๆ ได้เพิ่มเติม
ฟีเจอร์
- โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปใช้งานง่าย
- แพคเกจฟรี มาพร้อมกับพื้นที่จัดเก็บ 500 MB และแบนด์วิดธ์ 1 GB
- มีหลายราคาให้เลือก ตอบโจทย์การใช้งานเว็บไซต์ที่แตกต่างกัน
ข้อดีและข้อเสีย
- มีเทมเพลตจำนวนมากให้เลือกใช้
- การเข้าถึงฟีเจอร์ส่วนใหญ่ต้องอัปเกรดแพคเกจ
- โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปอื่นๆ เช่น Squarespace และ Webflow อาจเหมาะกับพอร์ตโฟลิโอมากกว่า
4. Squarespace
ดีที่สุดสำหรับ
เว็บไซต์ธุรกิจ
Squarespace เป็น Website Builders ที่รองรับได้หลากหลาย ทั้งเว็บไซต์ส่วนบุคคล ธุรกิจ และอีคอมเมิร์ซ
ทำไม?
แหล่งรวมเทมเพลตกว่า 100 แบบ Squarespace เปิดให้ผู้ทำเว็บไซต์โปรโมตบริการและแบรนด์ของตนผ่านเทมเพลตที่สามารถปรับแต่งได้ ผ่าน Editor ของ Squarespace เอง และถ้าคุณมีทักษะ คุณยังสามารถลงลึกไปคัสต้อมโค้ด เพื่อปรับแต่งธีมนั้นๆ ได้ โดยรวมไว้ตั้งแต่แบบสำหรับร้านอาหาร เอเจนซี่ คอร์สออนไลน์ และธุรกิจประเภทอื่นๆ นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้เพิ่มฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การชำระเงินในร้านค้าออนไลน์ หรือแอปจองการนัดหมาย
แพคเกจและราคา
สร้างเว็บไซต์โดยใช้แพคเกจสำหรับบุคคลในราคา 540 บาทต่อเดือน อัปเกรดเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นวิเคราะห์เว็บไซต์และฟีเจอร์เพิ่มเติม
ฟีเจอร์
- สร้างเว็บไซต์ได้ง่ายผ่านการปรับขนาดรูปภาพ
- รับคัสต้อมโดเมนฟรีในปีแรก
- อัปเกรดแพคเกจ เพื่อเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นร้านค้าออนไลน์และรับชำระเงินผ่าน Stripe และ PayPal
ข้อดีและข้อเสีย
- เทมเพลตเว็บไซต์ที่มีสไตล์และทันสมัย
- เข้าถึงฟีเจอร์หลากหลายได้ตั้งแต่แพคเกจเบสิค
- เครื่องมือสำหรับอีคอมเมิร์ซมีจำกัด
5. GoDaddy
ดีที่สุดสำหรับ
เว็บไซต์ที่เรียบง่าย
GoDaddy เป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์พื้นฐานสำหรับการสร้างเว็บไซต์ส่วนตัวและมืออาชีพที่เรียบง่าย
ทำไม?
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ของ GoDaddy ใช้ AI ในการสร้างเว็บไซต์ได้ในไม่กี่นาที โดยอิงตามข้อมูลที่คุณให้ อย่างไรก็ตาม เทมเพลตเว็บไซต์ของ GoDaddy ค่อนข้างเลสิค และตัวเลือกการปรับแต่งอาจมีจำกัด ดังนั้นหากคุณต้องการทำร้านค้าออนไลน์ คุณจะต้องใช้เครื่องมือสร้างร้านที่แยกต่างหาก ซึ่งมีราคาแพงกว่า
แพคเกจและราคา
แพคเกจพื้นฐานของ GoDaddy รวมการเข้าถึงโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปในราคาประมาณ 340 บาทต่อเดือน
ฟีเจอร์
- ตัวเลือกเทมเพลตที่เหมาะกับมือถือกว่า 100 แบบ
- เชื่อมต่อโดเมนที่คุณเลือกเข้ากับเว็บไซต์ในแพคเกจพื้นฐาน
- ใช้โปรแกรมสร้างร้านค้าสำเร็จรูป เพื่อสร้างจุดขายสำหรับการขายแบบพบหน้า
ข้อดีและข้อเสีย
- แก้เว็บได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการเขียนโค้ด
- ฟีเจอร์และตัวเลือกการคัสต้อมที่จำกัด
6. Duda
ดีที่สุดสำหรับ
เอเจนซี่เว็บไซต์
Duda เป็นโปรแกรม Website Builders ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เอเจนซี่เสนอการบริการออกแบบเว็บไซต์ให้กับลูกค้าหลายราย
ทำไม?
สำหรับธุรกิจพัฒนาเว็บไซต์ Duda เสนอโซลูชันแบรนด์ไวท์เลเบลที่ช่วยให้เอเจนซี่สามารถเสนอโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่มีแบรนด์ให้กับลูกค้าภายใต้โดเมนที่กำหนดเอง เป็นส่วนหนึ่งของบริการที่ลูกค้าสามารถเข้าสู่ระบบหลังบ้านได้ ซึ่งโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ของ Duda มาพร้อมกับเครื่องมือและฟีเจอร์มาตรฐาน สำหรับการสร้างเว็บไซต์แบบ Responsive ทำให้ผู้ใช้มีอิสระในการวางองค์ประกอบต่างๆ ตรงส่วนไหนก็ได้บนหน้าเว็บ
แพคเกจและราคา
แผนเริ่มต้นที่ประมาณ 640 บาทต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่ของฟีเจอร์สำหรับ White Label จะอยู่ที่ราคาประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน
ฟีเจอร์
- พื้นที่จัดเก็บและแบนด์วิดธ์เว็บไซต์ไม่จำกัด
- โฮสต์ผ่าน Amazon Cloud
- เข้าถึงแหล่งสต็อกภาพขนาดใหญ่
ข้อดีและข้อเสีย
- ขยายบริการของธุรกิจ White Label ได้ด้วยโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป
- บุคคลและธุรกิจขนาดเล็กอาจเหมาะกับโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปอื่นๆ มากกว่า
7. Webflow
ดีที่สุดสำหรับ
นักพัฒนาเว็บไซต์
Webflow เป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปสุดเจ๋งสำหรับ Developers
ทำไม?
Webflow เป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ DIY ที่มีศักยภาพ พร้อมตัวเลือกการปรับแต่งระดับมืออาชีพ ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกที่เหนือกว่า WordPress โดย Webflow เสนอโซลูชันที่ซับซ้อนสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์โดยเฉพาะ รวมถึงเหมาะกับนักออกแบบที่ต้องการสร้างหน้าเว็บโดยไม่มีข้อจำกัด
แพคเกจและราคา
สร้างเว็บไซต์ 2 หน้าได้ฟรี ด้วยโดเมนย่อย webflow.io แพคเกจการออกแบบเว็บไซต์เต็มรูปแบบเริ่มต้นที่ 475 บาทต่อเดือน
ฟีเจอร์
- รวมการโฮสต์เว็บไซต์
- ใช้สร้างเว็บไซต์ที่มีการโต้ตอบแบบซับซ้อน การเปลี่ยนหน้า และอนิเมชัน
- ฟีเจอร์รองรับการทำงานร่วมกันระหว่างสมาชิกในทีม
ข้อดีและข้อเสีย
- การเน้นไปที่การปรับแต่งเป็นหลักอาจเป็นได้ทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้
- Webflow ต้องอาศัยการเรียนรู้ที่สูงกว่าโปรแกรมสร้างเว็บไซต์อื่นๆ
8. Weebly
ดีที่สุดสำหรับ
การสร้างเว็บไซต์ฟรีและรวดเร็ว
Weebly เป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่เหมาะกับการใช้งานแบบส่วนตัว หรือผู้ที่ต้องการสร้างร้านออนไลน์ฟรี
ทำไม?
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องมือธุรกิจ Square Weebly เป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่มีแพคเกจใช้ฟรี มาพร้อมกับเครื่องมือมากมาย โดยฟีเจอร์ฟรีรวมถึงรถเข็นสินค้า ฟีด Instagram และโดเมนย่อยฟรีเพื่อโฮสต์เว็บไซต์ โดยชื่อโดเมนจะมีคำว่า Weebly แทรกอยู่ และสามารถลบออกได้โดยการอัปเกรดเป็นแพคเกจที่เสียเงิน
แพคเกจและราคา
ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ของโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป Weebly นั้นสามารถใช้ได้ฟรี ส่วนแพคเกจที่ต้องชำระเงิน เริ่มต้นที่ 340 บาทต่อเดือน ซึ่งจะช่วยให้คุณใช้ชื่อโดเมนของตัวเองและเข้าถึงฟีเจอร์เพิ่มเติมได้
ฟีเจอร์
- โฮสต์ฟรีและโดเมนย่อย weebly.com
- เพิ่มอนิเมชั่นให้กับเว็บไซต์ด้วยเอฟเฟกต์พารัลแลกซ์และพื้นหลังวิดีโอ
- ปรับแต่งโค้ด HTML และ CSS ทั้งหมด
ข้อดีและข้อเสีย
- แพคเกจฟรีมีฟีเจอร์ให้ใช้มากมาย
- แพคเกจที่ต้องชำระเงินมีฟีเจอร์น้อยกว่าโปรแกรมสร้างเว็บไซต์อื่นๆ
9. Big Cartel
ดีที่สุดสำหรับ
เว็บไซต์ศิลปิน
Big Cartel เป็นเว็บไซต์บิวท์เดอร์สำหรับศิลปินที่ต้องการโชว์และขายงานศิลปะ
ทำไม?
Big Cartel ก่อตั้งขึ้นโดยศิลปิน เพื่อช่วยให้นักวาดสามารถขายงานได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องพึ่งพาแกลเลอรีหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ตัวเว็บไซต์ตั้งค่าง่าย มีฟีเจอร์พื้นฐานให้ใช้ฟรี ทำให้แพลตฟอร์มนี้เป็นอีกทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ไม่ใช้ Etsy
แพคเกจและราคา
แพคเกจ Gold plan ฟรี รวมเทมเพลตและฟีเจอร์การขายที่ค่อนข้างจำกัด
ฟีเจอร์
- ออกแบบมาสำหรับศิลปินและนักสร้างสรรค์
- แพคเกจฟรีสามารถลงขายสินค้าได้สูงสุด 5 รายการ
- รวมการโฮสต์เว็บไซต์
ข้อดีและข้อเสีย
- รายการสินค้าสามารถมีภาพได้เพียง 5 ภาพเท่านั้น
- รองรับช่องทางการชำระเงินน้อย
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ทำงานอย่างไร?
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ถูกออกแบบมาเพื่อลดอุปสรรคทางเทคนิคที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเว็บไซต์ ทำให้ทุกคนสามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้ง่าย แม้ว่าคุณจะไม่รู้วิธีเขียนโค้ด
แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ออนไลน์มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และยังมีคำแนะนำตลอดการตั้งค่าเว็บไซต์ การออกแบบโครงสร้าง การสร้างคอนเท้นท์ การเผยแพร่ ไปจนถุึงการจัดการเว็บไซต์
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานในลักษณะเดียวกัน ดังนี้
ตั้งค่าโฮสติ้งและบริการโดเมน
หนึ่งในสิ่งแรกที่คุณจะพบบนโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป ก็คือทางเลือกในการเลือกโดเมนและตั้งค่าโฮสติ้ง ซึ่งชื่อโดเมน คือที่อยู่เฉพาะของเว็บไซต์ของคุณบนอินเทอร์เน็ต ในขณะที่โฮสติ้ง คือที่ที่ข้อมูลเว็บไซต์ของคุณถูกจัดเก็บไว้เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์หลายตัวมีโฮสติ้งและโดเมนย่อยฟรีที่ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องซื้อโดเมนเอง โดยโดเมนย่อยมักจะรวมชื่อแพลตฟอร์ม เช่น yoursitename.myshopify.com เอาไว้
หลังจากที่คุณพร้อมที่จะขยายแบรนด์ ก็สามารถลงทะเบียนโดเมนใหม่ผ่านโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป และเมื่อความต้องการของเว็บไซต์ของคุณซับซ้อนขึ้น คุณอาจตัดสินใจโฮสต์เว็บไซต์ของคุณเองได้
เลือกเทมเพลต
หลังจากที่จัดการโดเมนและโฮสติ้งแล้ว โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะพยามให้คุณเลือกเทมเพลตสำหรับเว็บไซต์ โดยเทมเพลตเหล่านี้ก็คือเลย์เอาต์เว็บไซต์สำเร็จรูปซึ่งปรับให้เข้ากับการใช้งานเว็บไซต์ที่หลากหลาย เช่น ธุรกิจบริการ บล็อก หรือร้านค้าอีคอมเมิร์ซ
ขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นของโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปแต่ละรายการ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเทมเพลตได้ ซึ่งอาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบต่างๆ เช่น ฟอนต์ สี และภาพ โดยใช้การ Drag and Drop โดยหากคุณมีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี แพลตฟอร์มบางตัวก็อนุญาตให้คุณแก้ไขโค้ดของเทมเพลต เพื่อสร้างดีไซน์เว็บไซต์ที่เป็นเอกลักษณ์ได้อย่างสมบูรณ์
เพิ่มฟีเจอร์
เมื่อคุณสร้างเว็บไซต์พื้นฐานแล้ว ก็สามารถเพิ่มฟีเจอร์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้าชม เช่น หลังสร้างเว็บขายสินค้า ก็ให้เพิ่มฟีเจอร์รถเข็นและการชำระเงินที่ปลอดภัย หรือหากคุณกำลังตั้งค่าบล็อก ก็ให้เพิ่มคลังข้อมูล แถบค้นหา หรือฟีดโซเชียลมีเดีย
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในฟีเจอร์สำหรับประเภทเว็บไซต์เฉพาะ ดังนั้นจึงสำคัญที่จะต้องค้นหาความตรงกัน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป Shopify มาพร้อมกับทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับสร้างร้านออนไลน์และธุรกิจค้าปลีก
เผยแพร่และจัดการเว็บไซต์
เมื่อคุณพอใจกับรูปลักษณ์และฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์แล้ว ก็ถึงเวลาเผยแพร่ (Publish) โดยการกดปุ่มเผยแพร่ ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำให้เว็บไซต์ของคุณสามารถเข้าถึงได้จากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
เจ้าของเว็บสามารถติดตามเรตติ้งของคนเข้าเว็บและจัดการเว็บไซต์ได้ และอาจมีสิทธิ์เข้าถึงรายงานอัตโนมัติและแดชบอร์ดวิเคราะห์ ทั้งนี้ ฟีเจอร์ต่างๆ จะขึั้นอยู่กับแพคเกจที่คุณเลือก
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ดีต้องเป็นยังไง?
การเลือกโปรแกรมสร้างเว็บสำเร็จรูปที่เหมาะสมสำคัญพอๆ กับการเลือกสถานที่ตั้งธุรกิจ เพราะแพลตฟอร์มแต่ละตัวมีฟีเจอร์ ข้อดี และข้อจำกัดที่เป็นเอกลักษณ์
ลองเช็คลิสต์ด้านล่างนี้ เพื่อค้นหาโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่สามารถรองรับความต้องการของคุณ โดยไม่ทำให้ศักยภาพเว็บไซต์ของคุณลดลง
ราคาแพคเกจ
การสร้างสมดุลระหว่างต้นทุนเว็บไซต์และฟังก์ชันการทำงานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดการงบเงินเริ่มต้นธุรกิจ แม้ว่าโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีจะน่าสนใจ แต่ก็มักมีข้อจำกัด เช่น โฆษณาบนแพลตฟอร์มหรือฟีเจอร์ที่จำกัด
ในทางกลับกัน แพลตฟอร์มที่ต้องชำระเงินมักเสนอฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ เช่น การโฮสต์เว็บไซต์ และเทมเพลตที่ออกแบบมาอย่างมืออาชีพ ซึ่งอาจคุ้มค่ามากกว่าในระยะยาว
ทางเลือกที่ดี คือมองหาโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่มีแผนการสมัครสมาชิกแบบแบ่งระดับ เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นด้วยเว็บไซต์ระดับเบสิคและขยายฟีเจอร์ได้ในอนาคต
ใช้งานง่าย
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโค้ด หรือชอบ Editor แบบ Drag and Drop ความสามารถในการใช้งานของแพลตฟอร์มจะเป็นปัจจัยสำคัญ โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ที่เหมาะสมควรช่วยให้คุณปรับปรุงดีไซน์เว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย ไม่เพียงแต่ในระยะแรก แต่ยังรวมถึงเมื่อเว็บไซต์เติบโตและทักษะของคุณพัฒนาขึ้นด้วย
ฟีเจอร์
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์แต่ละแห่งนำเสนอฟีเจอร์ที่แตกต่างกันออกไป สิ่งสำคัญคือต้องประเมินฟีเจอร์ที่มีในแต่ละแพคเกจและพิจารณาว่าฟีเจอร์เหล่านี้ตรงกับความต้องการปัจจุบัน และความต้องการขยายกิจการในอนาคตของคุณอย่างไร
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซควรมีเครื่องมือเพื่อช่วยให้ร้านของคุณเติบโต เช่น ฮาร์ดแวร์ POS การรวมการขายผ่านโซเชียลมีเดียและการเข้าถึงเงินทุน
คัสต้อมได้หลายระดับ
แม้ว่าโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปส่วนใหญ่จะเสนอระดับการคัสต้อมให้กับผู้ใช้ แต่หลายๆ ตัวก็มีข้อจำกัดด้านความยืดหยุ่น ซึ่งอาจเป็นความท้าทายสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างแบรนด์ที่โดดเด่น
ลองเช็คว่าแต่ละแพลตฟอร์มมีความยืดหยุ่นแค่ไหนในด้านการออกแบบ และคุณจะมอิสระในการสร้างสรรค์มากเพียงใดเพื่อทำให้เว็บไซต์โดดเด่น
ทิปส์ดีๆ: วิธีการเลือกโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ดีที่สุด
ในการเลือกโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2024 การคัดเลือกครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการสำรวจตลาดโดยทั่วถึง ก่อนที่จะคัดเลือกแพลตฟอร์มทั้ง 9 นี้ ซึ่งแพลตฟอร์มแต่ละตัวได้รับการประเมินตามฟีเจอร์ยอดมนิยม รวมถึงความง่ายในการใช้งาน ตัวเลือกการคัสต้อม ฟีเจอร์เฉพาะ (เช่น เครื่องมือด้านอีคอมเมิร์ซและเทมเพลตพอร์ตโฟลิโอ) รวมถึงแพคเกจราคา
เราควรให้ความสำคัญกับโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจ ซึ่งมีทั้งตัวเลือกที่มีต้นทุนต่ำ ไปจนถึงโปรแกรมที่รองรับการพัฒนาเว็บไซต์ขั้นสูง ซึ่งแพลตฟอร์มทั้ง 9 นี้ผ่านการคัดเลือกจากจากการทดสอบจริง รวมกับคำแนะนำจากมืออาชีพ และการวิเคราะห์จากข้อเสนอแนะของผู้ใช้
หาบ้านให้กับเว็บไซต์ของคุณ
การเลือกที่อยู่สำหรับเว็บไซต์ของคุณก็คล้ายกับการหาสถานที่ที่เหมาะสมในการใช้ชีวิต สิ่งที่คุณต้องการ คือความสะดวกในการปรับเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการ ดูแลรักษาและพัฒนาง่าย สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้
หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างหน้าแลนดิ้งง่ายๆ เพื่อให้ข้อมูลติดต่อหรือเวลาทำการ โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีน่าจะตอบโจทย์ได้ดี แต่สำหรับผู้ที่ฝันถึงร้านค้าออนไลน์ที่คึกคักหรือพื้นที่ที่มีชีวิตชีวาในเชิงโต้ตอบกับผู้เข้าชม การเริ่มต้นด้วยโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ที่มีศักยภาพในการพัฒนาขั้นสูง คือกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงความยุ่งยากในการย้ายโปรแกรมในภายหลัง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปราคาเท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ หากคุณเริ่มต้นด้วยฟังก์ชั่นไม่ซับซ้อน เช่น หน้าแลนดิ้งพื้นฐานก็อาจใช้โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีได้ สำหรับเว็บไซต์ที่ซับซ้อนขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซ หรือการคัสต้อมในหลายๆ ส่วน ราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 340 บาทต่อเดือนสำหรับแพคเกจเบสิค และเพิ่มขึ้นตามความสะดวกและเครื่องมือ
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็กคือ?
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปจาก Shopify ปรันใช้ได้ง่ายกับขนาดและประเภทของธุรกิจที่แตกต่างกัน อินเตอร์เฟซใช้งานง่าย รวมกับเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการขายออนไลน์และการตลาดทำให้ Shopify เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างตัวตนออนไลน์ที่เชื่อถือได้ โปรแกรมสร้างเว็บไซต์อื่นๆ สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ได้แก่ Wix, Squarespace และ GoDaddy
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ดีที่สุดสำหรับอีคอมเมิร์ซคือ?
Shopify เป็น Website Builders ที่ดีที่สุดสำหรับอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากรองรับเครื่องมือครอบคลุม เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด ผสมผสานความง่ายในการใช้งานเข้ากับเครื่องมือการขายที่ทรงพลัง รวมถึงรองรับเกตเวย์การชำระเงิน การจัดการสต๊อกสินค้า และตัวเลือกการขนส่ง ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างร้านค้าออนไลน์ที่สุด
โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีที่ดีที่สุดคือแพลทฟอร์มไหน?
Weebly เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรี เปิดให้ใช้ฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ได้ตั้งแต่แพคเกจฟรี มีเทมเพลตแบบ Responsive ให้เลือกใช้ และยังมีเครื่องมือ SEO และรองรับความต้องการด้านอีคอมเมิร์ซ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ยังไม่พร้อมที่จะลงทุนในแพคเกจที่ต้องชำระเงิน